Family







My mom, sisters, and dad and nephew



















Five of us on the day we walked to our mom's farm last year. ภาพจากวันที่เราห้าคนพี่น้อง เดินเท้าไปที่นาแม่อีกครั้งหลังจากไม่ได้เดินไปนามาหลายสิบปี เราจงใจเดินไปเพื่อระลึกถึงความหลังและเตือนตนไม่ให้ลืมที่มาของตนเอง


โหลดเพลง

4 comments:

  1. ครอบครัว

    ใหญ่มาก

    น่ะครับ

    ReplyDelete
  2. เป็นครอบครัวรุ่นเก่านะครับ สมัยก่อน 4-5 คนถือว่าขนาดกลางโดยเฉพาะครอบครัวที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม หลายครอบครัวมี 7-10 คนขึ้นไป แต่สมัยนี้ด้วยอาชีพ วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป ด้วยค่าครองชีพคนจึงมักมีบุตรเพียง 2-3 คน
    ครอบครัวใหญ่เล็กไม่ใช่ประเด็นหลัก ที่สำคัญคือครอบครัวเป็นหน่วยสังคมที่เล็กที่สุดของสังคมใหญ่ สังคมจะดีได้ถ้าทุกครอบครัวมีความรักมีความเอาใจใส่ดูแลกัน ปลูกฝังให้สมาชิกในครอบครัวเป็นคนดีหรืออย่างน้อยก็ไม่สร้างปัญหาหรือเป็นภาระแก่สังคม

    ขอบคุณที่ร่วมแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนกันครับ
    อ.เมธี

    ReplyDelete
  3. My Family,คำนี้มีความหมายมากมายเเละคำนี้ยังอยู่ในใจฉันตลอดมาครอบครัวของฉันมีพี่น้องด้วยกัน 8 คนเเต่ฉันเป็นลูกคนสุดท้องพวกพี่ๆต่างก็แยกย้ายและเข้าไปทำงานและมีครอบครัวฉันต้องดูแลพ่อแม่และนานๆหลายปีพี่ๆถึงจะกลับมาเยื่บพ่อแม่ชักครั้งหนึ่งทำให้ฉันมีความรู้สึกว่าถึงเราจะเป็นครอบครัวใหญ่ในอดีตแต่ทุกคนต้องต่อสู่ดนรนเพื่อวันข้างหน้า แต่ฉันมีความคิดว่าทรัพย์สมบัตรที่ทุกคนแสวงหาตลอดชีวิต ที่ดนรนหามาเพื่อในการดำรงชีวีตของแต่ละคน เงินทองเป็นของนอกกายเปียบเสมอที่มันว่างเปล่า เพราะตายแล้วก็ติดตัวไปไม่ได้ แต่ถ้าทุกคนหันกลับมาดูแลเอาใจใส่คนรอบข้างให้ความรักรู้จักแบ่งปันให้กับคนอื่น ที่เขาไม่มีโอกาศสิ่งนี้ฉันว่ามันมีค่ายิ่งสำหรับคนที่ได้รับและผู้ให้ ใจเราก็เป็นสุขเพราะพ่อสอนฉันเสมอว่าการให้ ทาน ปัน แจก ถือว่าเป็นกุสนอันยิ่งใหญ่ แต่ทุกอย่างอยู่บนความพอเพียง การให้ต้องมีการพอประมาณ และพ่อบอกฉันว่า การคิดดี พูดดี ทำดี ทำให้เรามีความสุขไม่จำเป็นต้องมีเงินมากมาย แค่มีพอกินพอใช้ไม่ขัดสน ให้เอื่ยเฟื่อยแก่คนรอบข้างที่เราสามารถช่วยเขาได้ ทุกวันนี้ฉันก็มีความสูขดีตามอัตถภาพ บางครั้งก็ท้อเหมือนขาดกำลังใจที่จะเดินต่อไป แต่มาคิดอกทีก็ยังมีคนอีกหลายๆคนที่ยังรอเรา พี่บางคนที่เขาไม่มีโอกาศเหมือนเรา ก็จะพยายามที่จะสู้ต่อไป พ่อบอกว่าสักวันหนึ่งต้องมีวันของเราที่สดใส มีจิตเป็นทาน ช่วยเหลือสังคม ใจเราก็มีสุขมีชีวิตอยู่ได้อย่างสง่างาม
    ขอขอบคุณที่เปิดโอกาสให้แสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนความคิดดีๆให้กันและกัน
    ศรีอุดร

    ReplyDelete
  4. พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดถือว่าเป็นผู้ที่มีพระคุณสูงสุด ใครก็ตามที่ทีโอกาสได้ทดแทนพระคุณท่านก็ถือว่าได้โอกาสทดแทน ได้โอกาสทำสิ่งที่ดีที่ถูก ดีกว่าผู้ที่ไม่มีโอกาสเพราะไม่มีพ่อแม่แล้ว หรือยังมีพ่อแม่อยู่แต่ตนเองไม่อยู่ในสภาวะที่จะทดแทนได้ ส่วนเรื่องความลำบากเรื่องความทุกข์ มันเป็นเรื่องธรรมดา จะยากดีมีจนล้วนเคยพบและสัมผัสกับทุกข์ทั้งนั้นจะต่างกันก็แค่รูปแบบ จะมากน้อยอยู่ที่ใจ มีมากมายที่คนที่ดูเหมือนจะขาดมากกว่าเราที่เขายิ้มได้ สู้ต่อไปได้ แล้วทำไมเราต้องท้อ ต้องทุกข์ คิดในแง่บวกดีกว่าว่าความลำบากคือบททดสอบตัวเรา สู้ให้ถึงที่สุดเพื่อความสุขความภูมิใจที่รออยู่

    ReplyDelete